สวัสดีค่ะทุกท่าน
สำหรับบทความพิเศษ “บ้านอร่อย ๒๕ ฝ่าวิกฤติโควิด” เราอยากแบ่งปันวิธีคิด
วิธีการ
ที่ทำให้เรากลับมียอดขายเพิ่มขึ้นมากกว่าก่อนจะมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดเสียอีก
เราคิด เราทำอย่างไร เราขอแบ่งปัน เชิญทุกท่านอ่านร่วมกันนะค่ะ โดยบทความนี้จะเป็นรูปแบบการคุยกันระหว่างดิฉันชื่อเล่นเจี๊ยบ
(นางสาวชนัญชิดา ลิ้มนนทกุล) กับสามี (นายปรีดา ลิ้มนนทกุล) ค่ะ
ปรีดา: ผมขอเสริมตรงเรื่องยอดขายนะครับ
ส่วนตัวอาจจะเป็นการพูดถึงปัญหาในการผลิตของเรา แต่ผมคิดว่าก็เป็นปัญหาที่เปิดเผยได้ตรงที่
เราเองก็มีปัญหาการผลิตผักสดและเครื่องเคียง
เพราะตัวคุณเจี๊ยบเป็นคนลงมือทำส่วนการเตรียมวัตถุดิบทั้งหมด
ซึ่งผมมองว่าเป็นงานที่หนักมาก หากมียอดขายเพิ่มขึ้นๆ เรื่อยๆ เราเองก็กำลังปรับปรุงวิธีการและบริหารจัดการปัญหานี้อยู่
แต่ภาพรวมเราก็รู้ว่าเรามีความสามารถในการผลิตได้เท่าไหร่ต่อสัปดาห์ครับ
ชนัญชิดา:
สวัสดีค่ะ
วันนี้จะเป็นบทความแปลกๆ สักหน่อย ลักษณะเป็นการพูดคุยกันในครอบครัวลิ้มนนทกุล
ซึ่งเราพูดคุยกันบ่อยเกี่ยวกับเรื่องสัมมาอาชีพ และครั้งนี้เป็นการพูดคุยถึงการแก้ปัญหาของธุรกิจ
“บ้านอร่อย ๒๕” ในช่วงฝ่าวิกฤติไวรัสโควิด เพื่อนำมาแบ่งปันทุกท่านค่ะ
ปรีดา: ใช่ครับ
เราสองคนคุยกันบ่อย คล้ายๆ การพูดคุยกันในห้องประชุม
เพราะการพูดคุยกันทำให้เกิดการวิเคราะห์ สังเคราะห์ ปัญหาหรือการพัฒนางานในระหว่างการพูดคุยกัน
หลายท่านคงจะต้องเคยมีประสบการณ์อยู่แล้วนะครับ
ปรีดา: เริ่มเลยนะครับ
ตอนที่เราจะเจอปัญหาวิกฤติไวรัสโควิด แล้วต้องปิดร้าน เราทำอย่างไรบ้างครับ
ชนัญชิดา:
ค่ะ
ปัญหาแรกเลยค่ะ คือเราต้องปิดร้านแบบไม่รู้ตัวล่วงหน้า
และไม่มีกำหนดด้วยว่าจะต้องเปิดร้านเมื่อไหร่ เพราะเราไม่รู้ว่าโรคโควิดจะมีสถานการณ์ไปในทางไหนยังไง
จะดีขึ้นเมื่อไหร่ ตอนนั้นที่เราดูข่าว มันมีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ทั่วโลกก็เป็นแบบนั้นเพิ่มขึ้นๆ จนในไทยเราขอความร่วมมือคนในประเทศ จนมี
พรก.ฉุกเฉิน ซึ่งเราเองก็ต้องให้ความร่วมมือกับรัฐบาล ในที่สุดเราก็ต้องปิดร้าน แรกๆ
เราก็ปิดๆ เปิดๆ อยู่พักหนึ่งตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2563
จนปิดร้านเต็มที่เมื่อ 14 มี.ค.63 ค่ะ
สำหรับการปิดร้าน
ก็ตั้งแต่ว่าเราเป็นร้านค้าที่อาจจจะเป็นตัวกลางการแพร่กระจายโรคได้
หน้ากากอนามัยก็หายาก เราเองก็ไม่อยากติดไวรัสโควิดด้วย เพราะมีลูก มีสามีที่พิการรุนแรง
ซึ่งปิดใช้งานได้แค่ครึ่งเดียว แล้วโรคนี้ก็ทำลายปอดด้วยค่ะ
การปิดร้านจึงเป็นจากหลายสาเหตุค่ะที่เรายังไงก็ต้องปิดร้านค่ะ
ปรีดา: ใช่ครับ
จริงๆ แล้ว แนวคิดที่ทางรัฐบาลนำมาใช้ “สุขภาพนำเศรษฐกิจ”
ในทรรศนะของเรานั้น ถูกต้องที่สุด ณ ชั่วโมงนี้ครับ หลายๆ ประเทศที่ใช้วิธี “เศรษฐกิจนำสุขภาพ”
หรือแบบกั๊กๆ ไม่รู้จะเอาอะไรนำดี
ก็ปรากฎเห็นเป็นประจักษ์แล้วว่ามีคนติดเชื้อไวรัสโควิดเยอะมากจนระบบสาธาณสุขแทบล่มสลาย
ตรงนี้ไม่ต้องคิดยากเลยครับ มองแค่ตัวเรา ถ้าเราป่วยไม่สบาย
แล้วเราจะมีกำลังมีสมอง สติปัญญาอะไรไปทำงาน วันๆ
หนึ่งต้องวิ่งเข้าออกโรงพยาบาลก็หมดไปแล้ว
คิดแค่ตรงนี้ก็เห็นภาพใหญ่ได้ว่าประเทศไทยเรามาถูกทางคือ “สุขภาพนำเศรษฐกิจ”
ครับ
ชนัญชิดา:
ปัญหาต่อมาที่ตามมาติดๆ
คือ ปัญหาการจ่ายค่าเช่าที่ร้าน ทางเจ้าของตลาดไม่ได้ลดค่าเช้าให้เรา
เราตัดสินใจย้ายออกเดือนเมษายน 2563 เต็มเดือนมีนาคมกับเมษายน 2 เดือน
เราจ่ายค่าเช่าไปเปล่าๆ และไม่รู้ว่าจะต้องจ่ายไปอีกนานแค่ไหน เพราะเราไม่รู้อนาคตค่ะ
ถ้าจะต้องจ่ายค่าเช่าแล้วไม่รู้ว่าจะเปิดร้านได้เมื่อไหร่ สิ่งแรกที่ต้องทำคือ “หยุดรายจ่าย”
ก่อนเป็นเรื่องแรกค่ะ
ปรีดา: ครับผมเห็นด้วยกับแนวคิดนี้
เรื่องการหยุดรายจ่าย ครอบครัวเราทำเรื่องนี้
หากเปรียบเทียบกับระดับประเทศที่รัฐบาลจัดการก็สามารถสะท้อนให้เห็นว่า
การจัดการคล้ายๆ กันนะครับ
ตรงที่รัฐบาลหยุดรายจ่ายของประชาชนในประเทศด้วยการให้เกิดการหยุดจ่ายค่าสินเชื่อบ้านและรถยนต์
เป็นเวลา 3-6 เดือน ตรงนี้สำคัญครับ ช่วยได้มากๆ ครับ การหยุดสินเชื่อต่างๆ
ไม่ทำให้เสียประวัติเครดิตบูโร ด้วยครับ
ชนัญชิดา:
ใช่ค่ะ
เพราะก่อนโควิดจะมา เรามีรายจ่ายประจำเดือนคือค่าเช่ากับค่าไฟฟ้า
ถึงตัวดิฉันจะลงมือทำเองทำให้ไม่มีรายจ่ายค่าแรงนั้น
แต่ในที่สุดก็ต้องจ้างคนมาช่วยอยู่ดี ก็จะมีต้นทุนประจำในส่วนนี้
ดังนั้นการย้ายร้านบ้านอร่อย ๒๕ จากตลาดมาไว้ที่บ้านของเราในหมู่บ้านเปี่ยมสุข
จึงทำให้เราไม่มีรายจ่ายประจำทันที 2 ส่วนคือ ค่าเช่า กับค่าจ้างแรงงาน ค่ะ
ตรงนี้ทำให้เราเหนื่อยน้อยลง ดีตรงที่วันไหนขายได้คือกำไร ทันที
จนกว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นถึงจุดที่เราต้องหาคนมาช่วย ก็ตั้งใจสู้เต็มที่
ยอมเหนื่อยตรงนี้เพื่อให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤติโควิดไปก่อนค่ะ
ปรีดา: ผมจำได้ว่ายังมีเหตุสำคัญของการปิดร้านอีกเรื่องด้วยนะ
เกี่ยวกับวัตถุดิบ
ชนัญชิดา:
ใช่ค่ะ
คือสินค้าหลักของเราตัวหนึ่งคือ แหนมเนืองสุทธิลักษณ์พร้อมทาน ที่ไม่มีผักและเครื่องเคียง
เราจึงจัดเตรียมผัก 4 ชนิดคือ ผักกาดหอม ผักแพว ใบสะระแหน่ ผักชีใบเลื่อย
และเครื่องเคียง 4 ชนิดคือ กระเทียมสด มะม่วง พริกสด แตงกวา
เองแล้วบรรจุดในกล่องพลาสติกและกระปุกพลาสติกอย่างดี
ทั้งหมดเราต้องไปซื้อที่ห้างแม็คโคร ที่ตลาดสด ที่สวนผัก หลายแหล่งวัตถุดิบ
ต้องเจอผู้คน เราก็มีความเสี่ยงติดเชื้อ ในระหว่างการสรรหาวัตถุดิบด้วย
นี่ก็เป็นอีกเหตุผลสำคัญของการปิดร้านค่ะ
ปรีดา: ผมคิดว่าเรื่องน่าสนใจที่ผู้อ่านจะได้ประโยชน์ตรงเรื่องการย้ายร้านบ้านอร่อย
๒๕ ว่าคิดตรงนี้อย่างไร ทำอย่างไร มีอุปสรรคปัญหาที่ต้องแก้ไขอย่างไรครับ
ชนัญชิดา:
ค่ะ
สำหรับปัญหานี้ เรากลับมองว่าไม่มีปัญหานะ
เพราะว่าเหมือนเราคิดเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่แรก ตรงที่เราทำร้านบ้านอร่อย ๒๕
ให้เป็นตู้คอนเทนเนอร์ คือเราไม่ได้เอาตู้คอนเทนเนอร์เก่ามาทำร้าน แต่เราสั่งผลิตร้านที่มีงานเชื่อมเหล็กและมีโครงสร้างแบบตู้คอนเทนเนอร์
ดูได้จากความแข็งแรงของตัวตู้ที่ตอนติดตั้งร้าน มีรถเครนยกร้านมาวางที่ตลาด
พอเกิดปัญหาโควิดขึ้นมา สิ่งที่เราคิดแต่แรกก็ช่วยเราได้อย่างมาก
เราสามารถยกร้านที่มีรูปแบบตู้คอนเทนเนอร์ไปวางที่หน้าบ้านของเรา
ในเขตรั้วบ้านของเรา ภายในหมู่บ้านเปี่ยมสุข (บางบัวทอง) ได้เลยทันที
เพียงแต่ต้องมีเรื่องของการบริหารจัดการกับค่าใช้จ่ายในการย้ายร้านเพิ่มเข้ามา
เข้าตำรา “เจ็บแต่จบ” เหมือนที่คุณปอง ช่องข่าวเนชั่น 22 ชอบพูดค่ะ
ปรีดา: ครับ
ผมขอเสริมตรงนี้อีกนิดนะครับ ตู้คอนเทนเนอร์ของร้านบ้านอร่อย ๒๕ เราออกแบบเองว่าต้องการอะไร
อย่างไร ออกแบบถึงระบบต่างๆ ภายในตู้ ทำให้สะดวกเวลาติดตั้งชั้นวางสินค้า ตู้เย็น
ประปา ไฟฟ้า ระบบเครื่องปรับอากาศ ระบบอินเตอร์เน็ต ระบบทีวีดิจิตัล
ระบบกล้องวงจรปิด ซึ่งเราลงงทุนไปทั้งหมดกว่า 4 แสนบาท
แม้กระทั่งที่กระจกเราติดฟิล์มกันความร้อยด้วย ผนังของตัวตู้เป็นผนังไอโซวอล
ที่ป้องกันความร้อน หลังคาที่สูงกว่าตัวตู้ด้านบน ก็ใช้วัสดุกันความร้อน
ทำให้ภายในตัวตู้ประหยัดพลังงานอย่างมาก
มีพัดลมระบายความร้อนก่อนเปิดระบบเครื่องปรับอากาศ ทั้งหมดที่ผมกล่าวมานะครับ
ตอนที่เราย้ายตู้คอนเทนเนอร์มานั้น ไม่มีอะไรเสียหายเลยโดยเฉพาะภายในตัวตู้
ตอนที่รถเครนยกมายกมาได้เลยสบายๆ
แม้กระทั่งระบบเครื่องปรับอากาศ ที่เราสองคนคดีดีทำดีตั้งแต่แรก คือ
ตอนตั้งคอมเพรสเซอร์ เราไม่อยากเจาะพื้นคอนกรีตของตลาดให้เป็นรู ให้แตกร้าว
จึงปรึกษาผู้ติดตั้งตู้ว่าควรทำอย่างไร ทางบริษัทผู้ผลิตตู้คอนเทนเนอร์จึงแนะนำว่า
จะเชื่อมเหล็กเป็นลักษณะยื่นออกมาจากตัวตู้คล้ายขาตั้งยึดคอมเพรสเซอร์ให้แทน
เวลาติดตั้งระบบปรับอากาศให้ตั้งคอมเพรสเซอร์บนเหล็กชิ้นนี้ได้เลย
ทำให้ตอนขนย้ายร้านมาไม่ต้องรื้อเครื่องปรับอากาศไม่ต้องเสียเงินค่ารื้อระบบค่าติดตั้งระบบใหม่ประหยัดไปหลายพันบาทครับ
ทีมช่างรื้อขนย้ายตู้คอนเทนเนอร์กำลังรื้อหลังคาเพื่อเตรียมขนย้ายขึ้นรถเครน |
รถเครนยกร้านบ้านอร่อย ๒๕ จากตลาดพิมลราชเซ็นเตอร์ มุ่งหน้าสู่หมู่บ้านเปี่ยมสุข (บางบัวทอง) |
รถเครนยกร้านบ้านอร่อย ๒๕ มาถึงหน้าบ้าน 93/43 พร้อมยกลงวางบริเวณลานจอดรถหน้าบ้าน |
ช่างวางตู้คอนเทนเนอร์ร้านบ้านอร่อย ๒๕ ในบริเวณรั้วหน้าบ้านเรียบร้อย |
ทีมช่างกำลังเชื่อมและดัดแปลงหลังคาให้เข้ากับพื้นที่ ซึ่งมีแนวหลังคาเดิมบริเวณลานนจอดรถ |
ช่างกำลังปรับระดับพื้นของตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อปรับระดับประตูกระจกสไลด์ |
คอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศที่ตั้งอู่บนขาตั้งที่เชื่อมติดกับตัวตู้คอนเทนเนอร์ |
ด้านหลังเก็บงานเรียบร้อย รอติดตั้งระบบไฟฟ้า และขอมิเตอร์ไฟฟ้าใหม่มาลงร้านบ้านอร่อย ๒๕ |
เก็บงานสี ปรับระดับ ติดตั้งระบบแสงสว่าง ทุกเรื่องเรียบร้อย รอเพียงไฟฟ้าจากการไฟฟ้านครหลวง |
การยกย้ายตู้คอนเทนเนอร์ร้านบ้านอร่อย ๒๕ เสร็จสมบูรณ์ รอเพียงระบบไฟฟ้าและการเปิดรร้านอีกครัั้ง |
ชนัญชิดา:
ใช่ค่ะ
เรียกว่า อุปสรรคตรงนี้สำหรับเราแล้วแทบไม่เป็นอุปสรรค
แต่มีค่าใช้จ่ายในการรื้อหลังคา แล้วมาเชื่อมทำหลังคาใหม่
ซึ่งก็ใช้วัสดุเดิมค่ะไม่ต้องซื้อเพิ่ม ค่ารถเครน ทางผู้ผลิตตู้ก็บริการให้เราจนย้ายเสร็จ
บริการดีมากค่ะ ช่วยเราคิดช่วยเราประหยัดทุกอย่าง
มีค่าใช้จ่ายเรื่องการดึงสายเมนไฟฟ้าจากเสาไฟฟ้ามายังตัวตู้ ระบบสายดิน
การเดินเรื่องขอมิเตอร์ไฟฟ้าตัวใหม่ ส่วนตัวเก่าต้องยกเลิกค่ะ การทำเรื่องย้ายเลขที่บ้านของร้านมายังที่ใหม่
คือบ้านพักอาศัยของเรา ก็มีค่าใช้จ่ายพอสมควร แต่ก็ “เจ็บแต่จบ” ค่ะ
ชอบคำนี้ค่ะ
ปรีดา: แต่ก็เจ็บจริงๆ
นะครับ เพราะว่ารวมค่าใช้จ่ายกับความเสียหายที่จ่ายในหลายๆ เรื่อง รวมๆ
แล้วก็เกือบถึง 8 หมื่นบาท เอาเรื่องอยู่เหมือนกันครับ
ชนัญชิดา:
นั่นละค่ะถึงชอบคำนี้ของพี่ปองค่ะ
“เจ็บแต่จบ” ค่ะ
ปรีดา: ปัญหาต่างๆ
อุปสรรคต่างๆ ก็ผ่านไปแล้วจนร้านบ้านอร่อย ๒๕
มาอยู่รวมกันในพื้นที่บ้านของครอบครัวเราแล้ว เรื่องการตลาด
เราเดินหน้ากันอย่างไรต่อครับ เพราะเดิมเราอยู่ที่ตลาด มีคนพบเห็นผ่านไปผ่านมาตลอด
แต่นี่เราย้ายร้านมาตั้งในหมู่บ้าน ไม่มีใครเห็นร้านของเราเลย เราทำอย่างไรต่อครับ
ชนัญชิดา:
ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องการตลาด
เราอยากเล่าให้ทุกท่านทราบเรื่องบังเอิญอีกเรื่อง ก็คือ การย้ายร้านมาไว้หน้าบ้านของเรา
ตอนที่เราซื้อบ้าน ปกติบ้านในหมู่บ้านจะมีเพื่อนบ้านที่ตรงข้ามกับเรา
สำหรับหมู่บ้านเปี่ยมสุข (บางบัวทอง) ที่เราเลือกมาอยู่นี้ ตอนที่เรามา
เรามาตั้งแต่แรกๆ ทั้งหมู่บ้านจะมีโซนที่เราอยู่จำนวน 6
หลังที่ไม่มีเพื่อนบ้านตรงข้าม เพราะตรงข้ามบ้านเราเป็นกำแพงของโรงงานผลิตกล่องกระดาษ
ซึ่งอาจจะมีฝุ่นมากกว่าจุดอื่น มีเสียงดัง
แต่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเราเพราะเราเลือกซักผ้าตากแดดในวันที่โรงงานหยุด
ส่วนใหญ่เราอยู่ในบ้านที่ติดเครื่องปรับอากาศ เสียงจากโรงงานจึงไม่ค่อยกระทบเราเท่าไหร่
แต่สิ่งดีที่เราได้มาและมีประโยชน์กับเรามาก
คือการจอดรถได้ทั้งหน้าบ้านและริมกำแพงตรงข้ามบ้าน
เมื่อเราย้ายตู้คอนเทนเนอร์มาไว้หน้าบ้านจึงไม่เป็นการรบกวนเพื่อนบ้านที่อยู่ตรงข้ามเพราะไม่มีใคร
เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งเป็นรายละเอียดที่เราอยากสื่อสารกับทุกท่านว่า
บางครั้งในการดำเนินชีวิตประจำวันเราไม่รู้อนาคต
แต่เราสามารถคิดเผื่อคิดต่างได้คล้ายๆ กับเรื่องการทำร้านลักษณะตู้คอนเทนเนอร์ ค่ะ
หรืออีกเรื่องที่เป็นตัวอย่างได้คือ ขนาดพื้นที่ดินที่เราเลือกพื้นที่ดินที่มากที่สุดที่เรารับได้
ในตอนที่ตัดสินใจซื้อบ้านทำให้จากประตูกระจกหน้าบ้านถึงรั้วบ้านมีความลึกถึง 7
เมตร ทำให้สามารถวางตู้คอนเทนเนอร์ที่มีความลึก 3 เมตรได้สบายๆ ค่ะ แน่นอนว่าเราสองคนไม่ได้มีตาที่จะมองมาข้างหน้าได้
แต่การเผื่อเหลือนั้นก็ทำให้เราแก้ปัญหาในช่วงโควิดได้เป็นอย่างดีค่ะ
ชนัญชิดา:
สำหรับเรื่องการตลาด
เจี๊ยบขอแบ่งเป็น 3 ระยะนะค่ะ คือ ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว
แต่ต้องเล่าให้ทุกท่านทราบแนวทางการตลาดที่เราทำมาตลอด คือ “การบอกต่อ”
ว่าเราให้ความสำคัญกับเรื่องการบอกต่อ เป็นลำดับที่หนึ่ง
เป็นหัวใจสำคัญของการทำการตลาด และเราทำตรงนี้ได้ดี เราต้องการให้ลูกค้าของเรารู้สึก
“ทานแล้วครั้งหน้าถ้าจะทานแหนมเนืองพร้อมทานที่มีผักและเครื่องเคียงครบชุดพร้อมทานต้องนึกถึงบ้านอร่อย
๒๕”
ที่ผ่านมาเรามั่นใจว่าเราทำความรู้สึกนี้ให้เกิดขึ้นกับลูกค้าสำเร็จไปแล้วขั้นหนึ่ง
เราใช้เวลาเดินทางตรงนี้ 1 ปีเต็ม ทำให้เรามีฐานลูกค้ากลุ่มเดิมของเรา 90% เป็นลูกค้าประจำซื้อซ้ำ ดังนั้นลูกค้ากลุ่มนี้พร้อมจะซื้อกับเราเมื่อเราเปิดดำเนินการค่ะ
ปรีดา: ดังนั้นแล้ว
แสดงว่า การทำการตลาดระยะสั้น คือการดึงลูกค้ากลุ่มนี้กลับมาอีกครั้งใช่ไหมครับ
ชนัญชิดา:
ใช่ค่ะ
วันที่ 15 พ.ค.63 เราเปิดร้านเต็มที่วันแรก ก่อนหน้านั้นเราโทรศัพท์หาลูกค้าทุกท่านที่มีเบอร์มือถือในเครื่อง
ลูกค้าทุกท่านดีใจ ฟังจากเสียงการพูดคุยกันค่ะ หลายท่านมาที่ร้านหลังเราติดต่อไป
บางท่านปกติจะเหมารถ TAXI
มาซื้อเราเป็นประจำเราพึ่งทราบ
แต่วันที่มาซื้อให้ลูกสาวขับรถพามาซื้อ การที่เราปิดร้านไป 2 เดือน
กลายเป็นว่าลูกค้าคิดถึงเรา
คุยกันสนิทมากขึ้นเพราะไม่ใช่แค่คุยเรื่องตัวสินค้าอย่างเดียว
แต่ถามสารทุกข์สุขดิบกันจนสนิทขึ้น แทบทุกท่านในช่วงนี้ที่คิดถึงกัน อุดหนุนกัน
เราจะมีของแถมให้ด้วยค่ะ ให้ลูกค้าประทับใจค่ะ กลุ่มลูกค้าประจำของเราก็มีสมาชิกหมู่บ้านเปี่ยมสุข
ที่เราย้ายมาด้วย เท่ากับเป็นการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าไม่ต้องไปหาเราที่ตลาด
แค่เดินมาก็ซื้อได้แล้วค่ะ
ลูกค้าประจำอยู่ในหมู่บ้านเปี่ยมสุข เมื่อเราย้ายเข้ามาในหมู่บ้าน ทำให้ลูกค้าสะดวกที่จะมาอุดหนุน |
ลูกค้าวีไอพีประจำหมู่บ้านลัดดาวัลย์ เมื่อทราบเปิดร้าน แวะมาอุดหนุนทันที |
รุ่นน้องโรงเรียนโยธินบูรณะ มาอุดหนุนก่อนเราปิดร้านบ้านอร่อย ๒๕ ตอนค่ำๆ |
ลูกค้าประจำห่างจากเราไปประมาณ 5 กิโลเมตร หลังเลิกงานฝ่าสายฝนมาอุดหนุน หลังเราโทรแจ้งเปิดร้านแล้ว |
ลูกค้าประจำอยู่ห่างจากเราไป 30 กิโลเมตร พอรู้ว่าเราเปิดร้านอีกครั้ง รีบให้ลูกสาวขับรถพามาอุดหนุนแทน TAXI |
ลูกค้าประจำวีไอพี มีออเดอร์ด่วน เพื่อนำแหนมเนืองพร้อมทานไปเป็นของฝาก ต้องรีบตื่นเช้ามืดมาเตรียมสินค้า |
หนูนา ลูกสาว พากันไปส่งแหนมเนืองพร้อมทานให้กับลูกค้าประจำวีไอพี ช่วงเช้ามืด |
ปรีดา: แล้วการตลาดระยะกลางเป็นรูปแบบไหนครับ
ชนัญชิดา:
สำหรับระยะกลาง
จริงๆ แล้วก็เรียกให้ดูเข้าใจง่าย แต่อยากจะสื่อความหมายแบบนี้ค่ะ คือเป็นการขยายตลาดที่เราเองก็ต้องปรับตัวมากกว่าค่ะ
เพราะเราไปเสียเงินค่าใช้จ่ายในการย้ายร้าน บวกกับขาดรายได้ไป 2 เดือน
เรียกว่าตัวธุรกิจยังขาดทุนสะสมอยู่ เราต้องเร่งชดเชยส่วนนี้
เรามาดูข้อมูลของกลุ่มลูกค้าประจำ พบว่าหลายท่านทำงานประจำ
หลายท่านเป็นถึงระดับบริหาร เป็นเจ้าของกิจการ เราจึงตัดสินใจที่จะออกเดินสายบริการจัดส่งให้ถึงมือลูกค้า
โดยกำหนดส่งสินค้าทุกวันศุกร์ เริ่มทำจาก 1 วันใน 1 สัปดาห์ก่อน
ถ้าลูกค้าเพิ่มทั้งจำนวนและสถานที่เช่น สำนักงาน มหาวิทยาลัย
เราจะเพิ่มจำนวนวันให้มากขึ้นใน 1 สัปดาห์ต่อไปค่ะ
ปรีดา: ผมขอเสริมตรงนี้นะครับ
คือฐานลูกค้าเดิมของเราที่เราเรียกประจำว่า ลูกค้าวีไอพี ปกติเราจะมีการบริการส่งให้เป็นประจำแต่เป็นการส่งสินค้าที่ค่อนข้างอิงเราเป็นหลักแทน
คือ ถ้าเรามีธุระเข้าไปในเขตกรุงเทพฯ (บ้านอร่อย ๒๕ ตั้งอยู่ อ.บางบัวทอง
จ.นนทบุรี) เราจะโทรไปถามลูกค้าว่าจะรับสินค้าไหม
ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะให้เราส่งสินค้าในวันที่เราเดินทางหรือตามที่เราสะดวก ตรงนี้ที่ผ่านมาเราก็เกรงใจลูกค้ามาก
พอเกิดสถานการณ์โควิด เราปรับวิธีการกำหนดวันศุกร์เป็นวันส่งสินค้า
ทำให้เรารู้สึกไม่เอาเปรียบลูกค้า ลูกค้าไม่ต้องรอเรา
แต่ทราบวันที่เรากำหนดทุกสัปดาห์ครับ
ชนัญชิดา:
ค่ะ
อีกเรื่องที่ทำไมต้องเป็นวันศุกร์ ก็มีที่มาที่ไปด้วยค่ะ คือทางผู้บริหารของบริษัท
ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) มีกิจกรรมให้บุคคลภายนอกมาขายผักในอาคารทีเอฟ
หรือเราเรียกกันติดปากว่า อาคารมาม่า ก็ได้ชักชวนให้ให้โอกาสเรานำแหนมเนืองพร้อมทานไปขายด้วย
แต่ด้วยที่ว่าเราต้องมีกิจกรรมระหว่างวันหลายเรื่อง
ผู้บริหารจึงอนุญาตให้เราไปส่งมอบสินค้าแทนการวางจำหน่ายค่ะ
ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นที่เราติดต่อลูกค้าวีไอพีทุกท่านว่า เราจะเริ่มทริปส่งแหนมเนืองสุทธิลักษณ์พร้อมทานกับชุดผักและเครื่องเคียงสดสะอาด
ทุกวันศุกร์ ค่ะ
ปรีดา: ขณะนี้ลูกค้ากลุ่มสำนักงานองค์กร
เรามีกี่แห่งแล้วครับ
ชนัญชิดา:
ค่ะ
ขอเรียงลำดับนะค่ะ
· มีอาคารมาม่า
หรือบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งกรณีของมาม่า
เราภูมิใจมากตรงที่ บริษัทมาม่า เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงและทำอาหารให้คนไทยทั่วประเทศได้บริโภค
เปรียบเสมือนเราทำอาหารมาให้องค์กรที่ทำอาหารในคนทั้งประเทศได้ทาน ตรงนี้ภูมิใจมากๆ
ค่ะ แล้วที่มาม่าอุดหนุนเรา ตอนนี้มากที่สุดค่ะ คือมีออเดอร์ถึงครั้งละ 20 ชุดค่ะ
·
มีบริษัท วิทยุการแห่งประเทศไทย จำกัด
ที่เราเคยไปขายในวันที่มีการจัดตลาดนัดประจำปีเมื่อช่วงปลายปี 2562 ขายตั้งแต่ 07.30-11.30
น. เราขายได้ถึง 80 ชุด ทำให้มีกลุ่มลูกค้าที่เคยทานอยู่
ที่วิทยุการบินมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งช่วยรวบรวมลูกค้าให้ด้วยค่ะ
·
ที่ดุสิตคอนโดมิเนียม
มีผู้ใหญ่ที่เป็นผู้ให้ทุนทำบ้านอร่อย ๒๕ และยังคอยช่วยสั่งซื้อตลอดเวลาค่ะ
·
ที่บริษัท บัณฑิตเซ็นเตอร์ จำกัด ที่เป็นเจ้าของเว็บไซต์กระปุกดอทคอมค่ะ
·
ที่โรงพยาบาลพญาไท 1 มีคุณหมอที่รู้จักกันกับพี่พยาบาลที่สนิทรู้จักกันมาเกือบ
20 ปีค่ะ
· ยังมีลูกค้าอีกกลุ่มที่มีจำนวนมากพอสมควร
คือกลุ่มผู้ปกครองและเจ้าหน้าที่ในโรงเรียนสาธิตประสานมิตรค่ะ รวมถึงอาจารย์ในมหาวิทยาลัย
มศว.ประสานมิตร ด้วยค่ะ สำหรับทั้งสองแห่งนี้ ผมมีน้องสาวแท้ๆ 2 คนช่วยกระจาย
ช่วยอุดหนุนไปด้วย เพราะมีลูกสาวเรียนที่สาธิต มศว. ครับ
ส่วนอีกคนเป็นอาจารย์สอนประจำรายวิชาใน มศว.ประสานมิตร ครับ
สำหรับยอดขายโดยรวมเรียกว่า
ดีกว่าการขายที่ตลาดพิมลราช และยอดขายตอนนี้ยังพึ่งเริ่ม เพราะเราเริ่มขายยังไม่ถึง
1 เดือน โดยเราจะค่อยๆ เพิ่มจำนวนสำนักงานเพิ่มขึ้นค่ะ และเราก็เชื่อมั่นว่าแต่ละแห่งจะค่อยๆ
เพิ่มจำนวนยอดสั่งซื้อเอง เพราะเรากำลังทำโปรมั่นโดนๆ อยู่ค่ะ
จัดเตรียมสินค้าแหนมเนืองสุทธิลักษณ์พร้อมทานกับชุดผักและเครื่องเคียงสดสะอาด พร้อมรอส่งถึงมือลูกค้า |
จัดเรียงสินค้าแหนมเนืองสุทธิลักษณ์พร้อมทานกับชุดผักและเครื่องเคียง รอลูกค้ามารับที่อาคารทีเอฟ มาม่า |
คุณพจนี พะเนียงเวทย์ (ขวา) ผู้บริหารของ บมจ.ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ ผู้ผลิต "มาม่า" (ถ่ายที่อาคารทีเอฟ) ลูกค้าวีไอพี ของร้าน "บ้านอร่อย ๒๕" ที่ท่านช่วยกำหนดวันส่งสินค้าให้กับทางเรานำส่งทุกวันศุกร์ ค่ะ |
ลูกค้าที่บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ลูกค้าวีไอพีของเราอีกราย |
ลูกค้า บริษัท ร่วมพัฒนาน้ำแข็งหลอด จำกัด |
ลูกค้า บริษัท บัณฑิตเซ็นเตอร์ จำกัด ผู้พัฒนาเว็บไซต์กระปุกดอทคอม |
ลูกค้า บริษัท บิ๊กบ็อกซ์ คอนเทนเนอร์ จำกัด |
ลูกค้าประจำวีไอพี คุณบุญอารักษ์ โอเจริญ ดุสิตคอนโดมิเนียม |
ชนัญชิดา:
ใช่ค่ะ
ตอนนี้กำลังการผลิตผักสดและเครื่องเคียงเราสามารถทำได้ถึง 1,000
ชุดต่อเดือนค่ะ หากมากกว่านี้ เราต้องปรับปรุงการผลิตใหม่ค่ะ ซึ่งตอนนี้ก็มองๆ ไว้แล้วว่าต้องทำอย่างไรค่ะ
คุณชนัญชิดากำลังจัดเตรียมผักกาดหอม บรรจุลงกล่องพลาสติกและนำเข้าตู้เย็น |
ตู้เย็นขนาดใหญ่ 2 ประตู (ซ้ายมือ) ที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัท ไทยอินโนฟู้ด จำกัด |
ปรีดา: ผมคิดว่าเรื่องการได้รับการสนับสนุนจากทางบริษัท
ไทยอินโนฟู้ด จำกัด ผู้ผลิตแหนมเนืองสุทธิลักษณ์พร้อมทาน และสินค้าอีกหลายตัว
ก็มีส่วนสำคัญนะครับ
ที่ทำให้เราสามารถรองรับกลุ่มลูกค้าสำนักงานองค์กรได้ในช่วงที่ผ่านมาครับ
ชนัญชิดา:
ใช่ค่ะ
ช่วงที่ผ่านมาที่ลูกค้ามีออเดอร์สั่งซื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
พบว่าปัญหาของเราอีกเรื่องคือ การไม่มีที่จัดเก็บสต๊อกสินค้า
ทั้งแหนมเนืองและผักสดกับเครื่องเคียงที่เราบรรจุกล่องพลาสติก
ทำให้เราเพิ่มยอดขายไม่ได้ จึงได้คุยกับทางสุทธิลักษณ์ เพื่อขอรับการสนับสนุนตู้เย็นขนาดใหญ่
2 ประตู (ยี่ห้อ SANDEN
ประหยัดไฟเบอร์ 5) ซึ่งทางผู้บริหารของบริษัท ไทยอินโนฟู้ด จำกัด
ก็ให้การสนับสนุนทันทีตามที่เราได้ขอคำปรึกษา
ทำให้เราสามารถสั่งซื้อสินค้ามาสต๊อกได้มากขึ้นค่ะ /
สามารถอ่านบทสัมภาษณ์พิเศษการสนับสนุนจากสุทธิลักษณ์ ได้ที่ลิงก์นี้ค่ะ https://baanaroi25.blogspot.com/p/blog-page_86.html
ปรีดา: ผมอยากเสริมในส่วนของการที่เราให้ความสำคัญกับเว็บไซต์
การทำเนื้อหา บทความ ความรู้ และข้อมูลที่เราอยากสื่อสารกับลูกค้าของเรา ซึ่งส่วนนี้ผมเป็นผู้ดูแลจัดทำ
ช่วยได้มากนะครับเพราะทำให้ลูกค้ามีความเข้าใจในตัวสินค้า และบริการของเรา
เราพยายามจะทำให้ลูกค้าเห็นเราให้เป็นเหมือนเพื่อน เหมือนญาติ ที่ไว้ใจได้
รู้ว่าเราทำอะไรกับวัตถุดิบ รู้ว่าเรามีลูกค้าที่ไหนบ้าง
รู้ความเป็นครอบครัวของเรา ซึ่งจะทำให้ลูกค้ารู้สึกสนิทกับเราแม้จะไม่รู้จักกัน
และรู้ว่าเรามีความตั้งใจที่จะทำวัตถุดิบดีๆ ให้ลูกค้าได้ทานอย่างสบายใจครับ
ปรีดา: เรายังไม่ไปถึงการตลาดระยะยาวนะครับ
ผมนึกขึ้นมาได้ว่า มีคำถามจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่งถามเราสองคนว่า “ทำไมมาส่งเอง
ทำไมไม่ใช่บริการจัดส่งที่มีทั่วไป”
ผมอยากให้คุณเจี๊ยบได้บอกความรู้สึกตรงนี้ให้ทุกท่านทราบ
เพราะผมคิดว่าเป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจมากครับ
ชนัญชิดา:
ค่ะ
คือครอบครัวมีประสบการณ์ตรงกับการจัดส่งสินค้าอย่างมากค่ะ
เพราะเราก็เป็นผู้ซื้อผู้บริโภคเหมือนกัน ทั้งคนส่งของที่พูดจาไม่ดี ทั้งสินค้าที่เราได้รับบางครั้งมีความเสียหายเกิดขึ้น
สำหรับเราแล้วเรามองว่า กว่าจะออกแบบ กว่าจะผลิต กว่าจะตรวจสอบ กว่าจะทำการตลาด
กว่าจะขายได้ ผ่านขั้นตอนมาตั้งมากมาย หลายๆ ธุรกิจพลาดขั้นตอนสุดท้าย ตอนขั้นตอนจัดส่งขนส่งนี่ละค่ะ
แหนมเนืองพร้อมทานของเรา แค่กระปุกเครื่องเคียงเรายังไม่อยากให้ล้มเลยค่ะ
เราอยากได้สินค้าอย่างไร
ทางเราก็จะพยายามส่งมอบสินค้าแบบที่เราอยากได้ให้กับลูกค้าอย่างนั้น เราต้องมีความสะอาด
การจัดเรียงสินค้าที่ดี เราจะส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าแบบนี้ไปเรื่อยๆ ค่ะ
จนกว่าเราจะสามารถออกแบบพัฒนาการจัดส่งที่เราคิดขึ้นมาเอง
ที่สามารถทำให้จัดส่งคนไหนก็ได้สามารถส่งสินค้าที่ดีมีคุณภาพให้ถึงมือลูกค้าแบบที่เรากำลังทำอยู่ค่ะ
สำคัญอีกเรื่องคือ การที่เราได้พบลูกค้าเป็นความสุขใจที่ได้เห็นหน้าลูกค้า
ได้พูดได้คุย และรับคำติชมต่างๆ กลับมาพัฒนาปรับปรุงจนเราจะมั่นใจได้ว่า
เราได้แก้ไขปรับปรุงหมดแล้ว เราถึงจะวางใจให้มีคนมาจัดส่งแทนเราค่ะ
การส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าด้วยตัวเองในช่วงต้นนี้ทำให้ได้มีโอกาสพูดคุยกับลูกค้าเพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนา |
ปรีดา: ผมคิดว่า
ในการตลาดตรงนี้ที่เรากำลังทำอยู่ มีเรื่องง่ายๆ อีกเรื่อง ที่ผมแนะนำว่าแทบทุกธุรกิจก็ทำแบบเราได้
คือ การมีเครื่องรูดบัตรเครดิต-เดบิต
เพื่ออำนวยความสะดวกลูกค้าได้เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่เรานำมาใช้หลังวิกฤติโควิดนี้ด้วยครับ
ซึ่งตอนนี้เครื่องรูดบัตรมีแทบทุกธนาคาร
ใครใช้บริการธนาคารไหนก็ติดต่อขอรับเครื่องรูดบัตรนี้มาใช้กับธุรกิจของคุณได้ครับ
ชนัญชิดา:
ขอเสริมอีกเรื่องนะค่ะ
เพราะปัจจุบันทุกคนจะนิยมเรื่องการใช้ออนไลน์ในการทำการตลาด ซึ่งเราก็ใช้เหมือนกัน
แน่นอนว่าเราจะเห็นภาพข่าวมากมายที่มีการหลอกลวงกัน ฉ้อโกงกัน
ดังนั้นร้านบ้านอร่อย ๒๕ ของเรามั่นใจว่า
ในกลุ่มลูกค้าที่รักสุขภาพแล้วทานแหนมเนืองพร้อมทานกับเรานั้น
เมื่อทานแล้วจะติดใจกับแหนมเนืองที่ได้คุณภาพ และผักกับเครื่องเคียง ที่เราลงมือทำเอง
ออนไลน์ก็สำคัญ แต่ถ้าสินค้าเราไม่มีคุณภาพ ลูกค้าก็ซื้อครั้งเดียว
ดังนั้นการทำสินค้าให้ดี มีมาตรฐาน เพื่อให้ลูกค้า “ซื้อซ้ำ และบอกต่อ”
สำหรับเราคือสำคัญที่สุดค่ะ
เรานำเครื่องรูดบัตรเครดิต-เดบิต มาให้บริการลูกค้าร้านบ้านอร่อย ๒๕ หลังวิกฤติโควิด อย่างจริงจัง |
ปรีดา: ครับ
ถูกต้องครับ ผมคิดว่าเรามาถูกทางแล้ว เพราะตอนนี้แม้แต่ผักที่เราทำ ลูกค้ามีการซื้อผักเพิ่มเติมจากชุดแหนมเนืองพร้อมทานที่เรามีผักให้อยู่แล้วด้วยครับ
ผักของเราอ่อน สด สะอาด ตรงนี้ก็สามารถมัดใจลูกค้าด้วยเช่นกันครับ
ชนัญชิดา:
เร็วๆ
นี้ทางเราก็จะมีโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายอีกหลายรูปแบบ
ซึ่งเรากำลังเร่งดำเนินการอยู่ค่ะ
ปรีดา: ครับในการพูดคุยในช่วงท้ายๆ
นี้ สำหรับการตลาดระยะยาวของเรา เป็นเรื่องที่เราคิดไว้ตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤติโควิด
เป็นรูปแบบของการขยายสาขาที่เราออกแบบไว้ถึง 3 รูปแบบ
ซึ่งสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์นี้ครับ https://baanaroi25.blogspot.com/p/blog-page_24.html
ปรีดา: เราสองคนมีความตั้งใจว่า
บทสนทนาของเราสองคน คงอาจจะพอเป็นอีกตัวอย่างของการมีสติเมื่อเจอกับปัญหาที่อาจจะไม่ใช่แค่เรื่องของโควิด
เท่านั้น พวกเราคิดตลอดเวลา มีการเตรียมพร้อมตลอดเวลา เราจะถอดเทปบทสนทนาที่เราคิดว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านอีกเป็นระยะๆ
นะครับ
ชนัญชิดา:
ค่ะ
เราขอฝากทิ้งท้ายไว้นะค่ะว่า เมื่อเกิดวิกฤติอะไรก็ตาม ขอให้มีสามสิ่งนี้ค่ะ คือ “สติ
ครอบครัว และขอให้เราทำดี” ขอขยายความว่าทำดีของเรา หมายถึง “มีความกตัญญู
ซื่อสัตย์ และคิดดีทำดี” ค่ะ ขอบพระคุณทุกท่านมากนะค่ะ
มีเรื่องสอบถามสามารถติดต่อเจี๊ยบได้ที่มือถือ 097-229-2345 ค่ะ
ปรีดา: ใช่ครับ
มุมมองผมคือ ทุกๆ คนเคยผิดพลาดมาก่อน หลายคนจะบอกว่าตัวเองไม่ใช่คนดี
เราเองก็ไม่เคยไปบอกใครว่าเราเป็นคนดี มุมที่ผมอยากนำเสนอเพียง “ให้เราคิดดี ทำดี
ประพฤติดี” ก็พอครับ สำหรับมือถือผมนะครับ 086-314-7866
อยากสอบถามเรื่องการทำตู้คอนเทนเนอร์ การทำเว็บไซต์ การตลาด ก็ติดต่อได้ตลอดนะครับ
ดึกๆ ยิ่งสะดวกครับ พร้อมให้คำแนะนำครับ ขอบพระคุณทุกท่านมากครับ
สนทนาเมื่อ
1 มิถุนายน 2563
พิมพ์เมื่อ
2 มิถุนายน 2563
ด้วยความนับถือ
นางสาวชนัญชิดา
ลิ้มนนทกุล
097-229-2345
(LINE)
เจ้าของร้านบ้านอร่อย
๒๕
นายปรีดา
ลิ้มนนทกุล
086-314-7866
(LINE)
ที่ปรึกษาร้านบ้านอร่อย
๒๕
ผู้ดูแลและจัดทำเว็บไซต์บ้านอร่อย
๒๕
ข่าวเปลี่ยนชีวิต !!!!
ตอบลบนี่คือการเปลี่ยนแปลงชีวิต! ฉันชื่อนางสาวบุษราคัมฉันมาจากประเทศไทย เนื่องจากการวิเคราะห์ทางการเงินที่เฉพาะเจาะจงสัญญาที่เขาจัดการเมื่อเดือนที่แล้วจึงไม่เป็นไปตามแผน ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจขอเงินกู้ แต่ไม่ได้รับการอนุมัติเนื่องจากอันดับเครดิตที่ไม่ดีของฉัน ไม่กี่วันที่ผ่านมาผู้หญิงคนหนึ่งจากองค์กรของฉันมาบอกฉันทางออนไลน์เกี่ยวกับ LYDIA MOON COOPERATIVE LOAN COMPANY ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำ 2% และกำหนดการชำระเงินที่ดีกว่า และเธอบอกฉันว่าเธอถูกโกงสองสามครั้งจนกระทั่งเธอถูกส่งต่อไปยัง LYDIA MOON CO-OPERATIVE LOAN COMPANY จากนั้นฉันก็ติดต่อพวกเขาที่ lydiamooncooperativeloan@gmail.com และพวกเขาก็ให้เงินกู้ฉันดีใจมาก
ความสนใจ:
ตอบลบคุณกำลังมองหา บริษัท สินเชื่อทางการเงินที่แท้จริงเพื่อให้คุณกู้ยืมระหว่าง 5,000 ยูโรถึง 50,000,000 ยูโร (สำหรับสินเชื่อธุรกิจหรือ บริษัท สินเชื่อส่วนบุคคลสินเชื่อบ้านสินเชื่อรถยนต์เงินกู้รวมหนี้เงินร่วมทุนเงินกู้เพื่อการดูแลสุขภาพ ฯลฯ )
หรือคุณเคยถูกปฏิเสธการกู้ยืมเงินจากธนาคารหรือสถาบันการเงินเพราะสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งหรือไม่?
สมัครตอนนี้และรับเงินกู้ทางการเงินจริงที่ดำเนินการและอนุมัติภายใน 3 วัน
LYDIA MOON CO-OPERATIVE LOAN COMPANY เราคือ "ผู้ให้กู้สินเชื่อที่ได้รับการรับรองในระดับสากล" ที่ให้เงินกู้ทางการเงินจริงแก่บุคคลและ บริษัท ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ 2% พร้อมบัตรประจำตัวที่ถูกต้องหรือหนังสือเดินทางระหว่างประเทศของประเทศของคุณเพื่อการตรวจสอบ
การชำระคืนเงินกู้ของเราเริ่มต้น 1 (หนึ่ง) ปีหลังจากที่คุณได้รับเงินกู้และระยะเวลาการชำระคืนอยู่ระหว่าง 3 ถึง 50 ปี
สำหรับการตอบสนองทันทีและการดำเนินการตามคำขอเงินกู้ของคุณภายใน 2 วันทำการ
ติดต่อเราโดยตรงผ่านอีเมลนี้: lydiamooncooperativeloan@gmail.com
ติดต่อเราด้วยข้อมูลต่อไปนี้:
ชื่อเต็ม:____________________________
จำนวนเงินที่ต้องการเป็นเงินกู้: ________________
ระยะเวลากู้: _________________________
วัตถุประสงค์ในการกู้ยืม: ______________________
วันเกิด:___________________________
เพศ:_______________________________
สถานภาพการสมรส:__________________________
ที่อยู่ติดต่อ:_______________________
เมือง / รหัสไปรษณีย์: __________________________
ประเทศ:_______________________________
อาชีพ:____________________________
โทรศัพท์มือถือ:__________________________
ส่งคำขอของคุณเพื่อตอบกลับทันทีที่: lydiamooncooperativeloan@gmail.com
ขอขอบคุณ.
ลิเดียมูน
ผู้อำนวยการ.
LYDIA MOON CO-OPERATIVE LOAN COMPANY
อีเมล: lydiamooncooperativeloan@gmail.com